Welcome to Smartzone4men , ฮอร์โมนเพศชาย, เวย์โปรตีน, ปลูกคิ้ว, ปลูกผม, ปลูกหนวด,testoviron,Testosterone, ftm, transman, tomboy, transgender, ผู้ชายข้ามเพศ,ผู้ชายวัยทอง
.: ยินดีต้อนรับเข้าสู่ร้าน Smartzone4men shop
 
Thai || Eng    admin  

Welcome to Smartzone4men , ฮอร์โมนเพศชาย, เวย์โปรตีน, ปลูกคิ้ว, ปลูกผม, ปลูกหนวด,testoviron,Testosterone, ftm, transman, tomboy, transgender, ผู้ชายข้ามเพศ,ผู้ชายวัยทอง
เมนูหลัก
เกี่ยวกับเรา
วิธีการสั่งซื้อ
วิธีการชำระเงิน
วิธีการรับสินค้า
บทความ
Webboard
code แลกลิงค์
สมัครสมาชิก
แผนที่ร้านค้า
คำนวณค่าขนส่ง
ค้นหาสิ่งของจากไปรษณีย์


สมัครรับข่าวสาร

 

สินค้าใหม่
ข่าวทั่วไป

เพื่อนบ้าน



ยังไม่มีลิ้งค์ใดๆเลย


Stat

ผู้ชมทั้งหมด
147756 ครั้ง
เปิดร้านตั้งแต่
16 พ.ย.2558


บทความ
ฮอร์โมนเพศชาย กับการทำงานในร่างกาย

ฮอร์โมนเพศชาย หรือฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) เป็นฮอร์โมนที่มีความสำคัญต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายของคุณผู้ชายทั้งหลาย ดังนั้น การเรียนรู้เกี่ยวกับฮอร์โมนนี้ให้มากขึ้นและรู้จักดูแลตัวเองเพื่อให้ฮอร์โมนอยู่ในระดับที่เหมาะสม จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ผู้ชายจะส่งเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงได้

1471 ฮอร์โมนเพศชาย Resized

ฮอร์โมนเพศชาย คือ อะไร ?

ฮอร์โมนเพศชายหรือฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนถูกสร้างขึ้นบริเวณอัณฑะของเพศชาย ทำหน้าที่ควบคุมระบบการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และช่วยให้ลักษณะภายนอกของผู้ชายดูสมชายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม อาจพบฮอร์โมนชนิดนี้ในผู้หญิงได้เช่นกัน แต่ก็มีปริมาณน้อยมาก

ฮอร์โมนเพศชายทำงานอย่างไร ?

ฮอร์โมนเพศชายมีความสำคัญต่อแทบทุกระบบในร่างกายของผู้ชาย โดยมีหน้าที่ดังต่อไปนี้

คงความแข็งแรงและรักษามวลกล้ามเนื้อ
รักษาความหนาแน่นของมวลกระดูก
มีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดเลือด การสลายไขมัน และการสร้างอสุจิ
ทำให้เกิดขนตามร่างกายและใบหน้า
ช่วยให้เกิดความต้องการทางเพศ เพิ่มขนาดของอวัยวะเพศและอัณฑะเมื่อเกิดอารมณ์ทางเพศ
ฮอร์โมนเพศชายมีปริมาณเท่าไรถึงเรียกว่าปกติ ?

โดยทั่วไปแล้ว ผู้ชายจะมีระดับฮอร์โมนเพศชายอยู่ที่ 270-1070 นาโนกรัม/เดซิลิตร และมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 679 นาโนกรัม/เดซิลิตร หากมีสุขภาพแข็งแรง ระดับฮอร์โมนเพศชายจะอยู่ที่ 400-600 นาโนกรัม/เดซิลิตร โดยผู้ชายจะมีระดับฮอร์โมนนี้สูงที่สุดในช่วงวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น จากนั้นจะเริ่มมีปริมาณลดลงเรื่อย ๆ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น โดยลดลงประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ทุกปีหลังมีอายุ 30 หรือ 40 ปีขึ้นไป และจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในร่างกายที่แสดงถึงการมีฮอร์โมนเพศชายลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงวัยกลางคน หรือเมื่อมีอายุ 60 ปีขึ้นไป

ระดับฮอร์โมนเพศชายที่ผิดปกติส่งผลอย่างไรบ้าง ?

ปริมาณฮอร์โมนเพศชายที่ลดลงหรือเพิ่มมากขึ้นจนเกินไปจะทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนเพศ และนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้ในที่สุด โดยนอกจากอายุที่เป็นปัจจัยสำคัญแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนเพศชายแปรปรวนได้

โดยสาเหตุที่อาจทำให้ปริมาณฮอร์โมนเพศชายลดลงได้ มีดังนี้

การได้รับบาดเจ็บที่อัณฑะ
การรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งอาจมีผลข้างเคียงต่อระบบสืบพันธุ์ด้วย เช่น การทำรังสีบำบัด การทำเคมีบำบัด เป็นต้น
การเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นต้น
ปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับไต
โรคเอดส์
โรคตับอักเสบ
การติดสุรา
ความเครียด
ระดับฮอร์โมนเพศชายที่ลดลงอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา รวมทั้งอาจส่งผลต่อสมรรถภาพร่างกายในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

ร่างกายมีพลังงานน้อยลงรวมทั้งมีความแข็งแรงและความทนทานลดลง
น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น
มีความกระตือรือร้นน้อยลง อาจรู้สึกเศร้าหรือหดหู่ร่วมด้วย
มีปัญหาในการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท เป็นต้น
ปวดตามกระดูกหรือข้อต่อ และอาจเกิดโรคกระดูกพรุน
ความต้องการทางเพศลดลง
ในขณะที่การมีปริมาณฮอร์โมนเพศชายสูงกว่าระดับปกตินั้นอาจส่งผลได้ทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ผลดี คือ ช่วยให้ระดับความดันโลหิตเป็นปกติ ทั้งยังลดความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและภาวะหัวใจขาดเลือดได้ด้วย แต่ในทางกลับกัน ปริมาณฮอร์โมนเพศชายที่สูงมากเกินไปอาจส่งผลให้ผู้ชายมีแนวโน้มบริโภคแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่มากขึ้น รวมทั้งอาจทำให้มีอารมณ์ก้าวร้าวมากกว่าปกติ ซึ่งการใช้อารมณ์นั้นอาจทำให้เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ และอาจร้ายแรงถึงขั้นมีพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงทางเพศหรือก่ออาชญากรรมได้อีกด้วย

ระดับฮอร์โมนเพศชาย ตรวจวัดได้อย่างไร ?

การตรวจวัดระดับฮอร์โมนเพศชายทำได้ด้วยการตรวจเลือด โดยแพทย์จะนำตัวอย่างเลือดไปตรวจปริมาณฮอร์โมน หากพบว่ามีฮอร์โมนเพศชายอยู่ในระดับที่ผิดปกติ ผู้ป่วยอาจต้องเข้ารับการตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม จากนั้นจะนำผลที่ได้มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

ระดับฮอร์โมนเพศชายผิดปกติ รักษาอย่างไร ?

ภาวะฮอร์โมนเพศชายผิดปกติสามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนทดแทนปริมาณฮอร์โมนที่ลดลงไป ซึ่งในปัจจุบันยาฮอร์โมนดังกล่าวก็มีให้เลือกใช้หลากหลายรูปแบบ เช่น ยาฉีด แผ่นแปะ ยาทา หรือเจล เป็นต้น โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าควรเลือกใช้ยาชนิดใดตามความเหมาะสมต่อผู้ป่วยแต่ละราย

ข้อดีของการรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน คือ ฮอร์โมนนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงของผู้ชาย และเร่งการเจริญเติบโตของอัณฑะ ส่วนข้อเสีย คือ อาจทำให้หน้าอกขยายใหญ่ขึ้น และไม่เหมาะกับผู้ป่วยชายที่เป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากหรือมะเร็งเต้านม การใช้ฮอร์โมนดังกล่าวจึงควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ส่วนระดับฮอร์โมนเพศชายที่ผิดปกติเนื่องจากโรคหรือความผิดปกติบางอย่าง แพทย์จะรักษาตามสาเหตุนั้น ๆ ต่อไป

การใช้ฮอร์โมนเพศชายในทางที่ผิดส่งผลอย่างไร ?

ในปัจจุบันมีการนำฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนชนิดสังเคราะห์มาใช้เป็นสารกระตุ้นในการแข่งกีฬาหรือเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่อันตรายได้ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคตับ อวัยวะเพศผิดปกติ มีบุตรยาก มีอารมณ์ฉุนเฉียวและก้าวร้าวมากขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่ผิวหนังจากการใช้เข็มฉีดยาอีกด้วย และจะยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้นหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน

ดูแลตัวเองอย่างไรให้มีระดับฮอร์โมนเพศชายเป็นปกติ ?

แม้ระดับฮอร์โมนเพศชายจะลดลงตามอายุที่มากขึ้น แต่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างก็มีส่วนช่วยให้ปริมาณฮอร์โมนดังกล่าวอยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพได้ โดยคุณผู้ชายทั้งหลายสามารถปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังต่อไปนี้

พักผ่อนให้เพียงพอ จากการศึกษาพบว่าการนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลง ทั้งยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันอีกด้วย
ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ภาวะอ้วนเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง การลดน้ำหนักจึงอาจช่วยให้มีระดับฮอร์โมนนี้สูงขึ้นได้
รู้จักผ่อนคลายความเครียด งานวิจัยชิ้นหนึ่งชี้ว่าฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เกิดจากความเครียดอาจไปขัดขวางการทำงานของฮอร์โมนเพศชายได้ จึงควรพยายามจัดการกับความเครียดด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ทำสมาธิ ฝึกการหายใจ ออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นต้น
รับประทานอาหารที่มีสังกะสีและแมกนีเซียม เนื่องจากเป็นสารอาหารที่ช่วยรักษาระดับฮอร์โมนเพศชายได้ โดยอาหารที่อุดมไปด้วยสังกะสี ได้แก่ เนื้ิิอสัตว์ หอยนางรม พืชตระกูลถั่ว และธัญพืชต่าง ๆ ส่วนแมกนีเซียมนั้นพบได้มากในผักปวยเล้ง อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และถั่วลิสง
เพิ่มไขมันดีในอาหาร ฮอร์โมนเพศชายนั้นสร้างขึ้นจากคอเลสเตอรอลในร่างกาย ผู้ชายจึงควรรับประทานอาหารที่มีไขมันดีมากขึ้น เช่น ปลาทะเลน้ำลึก อะโวคาโด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นไขมันชนิดที่ดี แต่ผู้บริโภคก็ควรรับประทานในปริมาณพอดีเช่นกัน
รับประทานปลามากขึ้น โดยเฉพาะปลาทะเลอย่างแซลมอน ทูน่า และแมคเคอเรล เพราะไม่เพียงมีไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว แต่ยังอุดมไปด้วยวิตามินดี ซึ่งจะช่วยส่งเสริมกระบวนการผลิตฮอร์โมนให้ทำงานได้ดีขึ้น
ลดการบริโภคน้ำตาล เนื่องจากมีการศึกษาพบว่าการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลทำให้ฮอร์โมนเพศชายลดลงได้ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ จึงควรลดการบริโภคน้ำตาลเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านนี้
หลีกเลี่ยงสารเคมีบีพีเอ (BPA) งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่า การทำงานที่ต้องสัมผัสกับสารเคมีบีพีเอติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งสารนี้พบได้ในบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารแบบพลาสติก อาจมีผลให้ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลงมากกว่าคนทั่วไปได้
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศชายได้ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง ทั้งยังช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและลดความเครียดได้อีกด้วย
ดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดี การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากเกินไปส่งผลให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้นและทำให้อัณฑะหดตัวลง ซึ่งกระทบต่อการผลิตฮอร์โมนเพศชาย ผู้ชายจึงควรดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณพอเหมาะเท่านั้น คือ ไม่เกินวันละ 2 ดื่มมาตรฐาน
Welcome to Smartzone4men , ฮอร์โมนเพศชาย, เวย์โปรตีน, ปลูกคิ้ว, ปลูกผม, ปลูกหนวด,testoviron,Testosterone, ftm, transman, tomboy, transgender, ผู้ชายข้ามเพศ,ผู้ชายวัยทอง
สมาชิกเข้าระบบ
Username
Password

สมัครสมาชิกใหม



      ไม่มีรายการสั่งซื้อ

สินค้าเด่น


ไม่มีสินค้าเด่นประจำวัน

 
 


Copyright 2005 siamBig All Right Reserved